เมื่อพูดถึงกีฬากรีฑาทุกคนคงต้องนึกถึงกีฬาที่ต้องอาศัยความเร็วของฝีเท้าใน แต่ละบุคคล เพราะเป็นกีฬาที่ค่อยข้างมีอุปการณ์ในการแข่งขันค่อนข้างน้อย และอุปกรณ์ในการแข่งขันก็ไม่มีราคาที่แพงมากจนเกินไป จนทำให้เป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมในทั่วโลก ซึ่งรวมๆแล้ว หัวใจหลักของการเล่นกีฬานี้ ก็คือ ต้องมีเท้าที่แข็งแรง และรู้จักการเคลื่อนไหวร่างกายให้เกิดความรวดเร็ว เพราะกีฬากรีฑานั้น จะเป็นกีฬาเฉพาะ ที่เกี่ยวข้องกับการวิ่งต่างๆ การกระโดด การขว้างและการโยน ซึ่งประเภทการแข่งขันกรีฑาที่พบกันแพร่หลายที่สุดก็คือ วิ่งวิบาก วิ่งทางเรียบ ลู่และลาน และเดินแข่ง จึงเป็นกีฬาที่ค่อนข้างเรียบง่าย และได้รับความนิยมให้เป็นกีฬาหลักของโลก ซึ่งกีฬากรีฑานั้น มีทั้งหมดถึง 6 ประเภทด้วยกัน ซึ่งมีความหมายที่แตกต่างกันดังนี้

1. ประเภทลู่ คือ เป็นการวิ่งตามทาง ถนน หรือบนทางที่ให้วิ่ง ที่เรียกว่า “ลู่” ซึ่งในการวิ่งในครั้งนี้จะวัดกันที่ความเร็วและเวลาในการวิ่งเข้าเส้นชัย ซึ่งแบ่งออกมาเป็น 5 ชนิดด้วยกัน คือ วิ่งระยะสั้น วิ่งระยะยาว วิ่งระยะไกล วิ่งข้ามเครื่องกีดขวาง และวิ่งผลัด
2. ประเภทลาน คือ เป็นกีฬาที่จะแข่งขันกันที่ลานหรือสนามที่มีพื้นที่กว้างๆ เพราะกีฬาประเภทนี้ จะใช้ความสูงและความไกลเป็นเครื่องตัดสิน
3. ประเภทถนน คือ เป็นกีฬาที่ใช้ถนนเป็นสนามแข็ง ซึ่งในพื้นของถนนนั้นต้องเป็นถนนที่มีพื้นแข็งเท่านั้น ซึ่งเส้นเริ่มและเส้นชัยนั้น จะอยู่ในบริเวณสนามแข่ง
4. ประเภทวิ่งข้ามทุ่ง คือ เป็นกีฬาที่ต้องวิ่งบริเวณภูมิประเทศ ซึ่งอาจจะเป็น เนินเขา ทุ้งหญ้า หรือเป็นทางลาดเอียง เป็นต้น ซึ่งในการแข่งขันนั้น ผู้หญิงและผู้ชายจะมีระยะทางในการวิ่งที่แตกต่างกัน
5. ประเภทการวิ่งระยะสั้น คือ เป็นการเอานักกีฬามาวิ่งแข่งขันกัน ซึ่งในระยะทางนั้นจะเป็นแค่ระยะทางสั้นๆ โดยการหาผู้ชนะนั้น ทางคณะกรรมการจะตัดสินจากคนที่ได้เข้าเส้นชัยเป็น 3 คนแรก ซึ่งจะเรียงลำดับตามความเร็วในการเข้าเส้นใจ เข้าก่อนหรือหลัง
โดยกีฬานี้ได้เข้าร่วมให้เป็นกีฬาที่เปิดรับการแข่งขันในโอลิมปิกนับตั้งแต่ 776 ปีก่อนคริสตกาล และเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมทั่วโลกไม่ว่าจะเป็นการจัดการแข่งขันไหนๆ เพราะเป็นกีฬาที่เรียบง่าย ซึ่งในปัจจุบัน กีฬากรีฑานั้นจัดเป็นกระดูกสันหลังของกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อนสมัยใหม่อีกด้วย